ภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศไทยได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วจากยุคแรกที่มีบริการโทรศัพท์สายดินไปสู่ยุคของบรอดแบนด์มือถือและเทคโนโลยี 5G การพัฒนานี้ได้รับแรงผลักดันจากการต่อยอดเทคโนโลยีและการแข่งขันในตลาดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้บริษัทโทรคมนาคมในประเทศไทยต้องพัฒนาและปรับตัวตลอดเวลา
อุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศไทยเริ่มต้นจากการควบคุมโดยรัฐ ซึ่งรัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน โดยบริษัทโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย (TOT) ได้ให้บริการโทรศัพท์สายดินในเมืองต่างๆ ก่อนที่จะมีการเปิดตัวบริการสื่อสารผ่านมือถือในช่วงทศวรรษ 1990 ซึ่งเริ่มเปิดตลาดให้กับผู้ให้บริการเอกชน
ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 บริษัทโทรคมนาคมเอกชนหลายรายได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดโทรคมนาคม โดยมี AIS, TrueMove และ DTAC เป็นผู้ให้บริการหลัก การเข้ามาของบริษัทเหล่านี้ได้นำเสนอการลดราคาและการให้บริการที่หลากหลาย โดยเฉพาะการเปิดบริการอินเทอร์เน็ตบนมือถือ ส่งผลให้โทรศัพท์มือถือกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
การเปิดตัวเครือข่าย 3G ในช่วงทศวรรษ 2010 เป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยช่วยให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือมีความรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น และเมื่อเครือข่าย 4G เปิดตัวตามมาในช่วงปลายทศวรรษ 2010 มันก็ช่วยเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้งานบริการที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลได้มากขึ้น การใช้สมาร์ตโฟนในชีวิตประจำวันกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถขาดได้
ตอนนี้ บริษัทโทรคมนาคมในประเทศไทยกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวเครือข่าย 5G ซึ่งจะมีความเร็วที่สูงขึ้นและความหน่วงต่ำลง ทำให้เกิดโอกาสใหม่ในหลายๆ ด้าน เช่น รถยนต์อัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ และอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) การเปิดตัว 5G เป็นการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยบริษัท AIS, TrueMove และ DTAC ต่างก็ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต
การแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมของประเทศไทยยังคงรุนแรง บริษัทโทรคมนาคมมีการเสนอบริการหลากหลาย เช่น การให้บริการการเงินผ่านมือถือ, การสตรีมมิ่ง และบริการดิจิทัลอื่นๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป การแข่งขันในเรื่องแพ็คเกจข้อมูลและความเร็วอินเทอร์เน็ตจึงเป็นสิ่งสำคัญ
การเกิดขึ้นของบริการ OTT เช่น แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งและแอปพลิเคชันการส่งข้อความต่างๆ ได้เพิ่มความท้าทายให้กับบริษัทโทรคมนาคมแบบดั้งเดิม เนื่องจากบริการเหล่านี้ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเนื้อหาดิจิทัลและการติดต่อสื่อสารโดยไม่ต้องพึ่งพาเครือข่ายโทรคมนาคมแบบเดิม ทำให้บริษัทโทรคมนาคมต้องปรับตัวและพัฒนาบริการใหม่ๆ ที่มุ่งเน้นการให้บริการข้อมูลและเนื้อหาดิจิทัลเพื่อรักษาฐานลูกค้า

