การเข้าถึงอย่างเท่าเทียม: แรงงานข้ามชาติ ผู้สูงอายุ และผู้เริ่มต้นดิจิทัล

ระบบที่ครอบคลุมอย่างแท้จริงต้องบริการผู้คนที่อยู่ชายขอบ: แรงงานข้ามชาติ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเยาวชนที่เพิ่งก้าวสู่การเงินครั้งแรก ธนาคารไทยกำลังปรับผลิตภัณฑ์และช่องทางเพื่อให้กลุ่มเหล่านี้มีส่วนร่วมได้อย่างปลอดภัยและมีศักดิ์ศรี

เริ่มจากแรงงานข้ามชาติ หลายคนมาจากประเทศเพื่อนบ้านและต้องการวิธีเก็บเงินและโอนเงินกลับบ้านที่มีต้นทุนต่ำ ธนาคารร่วมมือกันพัฒนา QR ข้ามพรมแดนและการโอนเงินค่าธรรมเนียมต่ำ ลดการพึ่งพาช่องทางไม่เป็นทางการ อินเทอร์เฟซหลายภาษา KYC ที่เรียบง่ายโดยร่วมมือกับนายจ้าง และการฝาก‑ถอนเงินสดผ่านตัวแทนใกล้แหล่งงานทำให้การเงินในระบบเข้าถึงได้ บัญชีเงินเดือนที่เชื่อมต่อกับแอปบนมือถือช่วยให้แรงงานแยกค่าใช้จ่ายออกจากเงินออม และสร้างประวัติที่เป็นประโยชน์ต่อการขอเครดิตในอนาคต

สำหรับผู้สูงอายุ การออกแบบและการสนับสนุนคือกุญแจสำคัญ ขนาดตัวอักษรใหญ่ พรอมพ์เสียง และพนักงานสาขาที่ผ่านการอบรมการช่วยเหลือด้านดิจิทัลช่วยลดความกังวล ธนาคารจัดช่วงเวลานัดหมายเพื่อช่วยเหลือด้านเทคนิค การกำหนดผู้รับผลประโยชน์ในบัญชี และผลิตภัณฑ์ที่ตัดจ่ายบิลอัตโนมัติพร้อมธงเตือนความเคลื่อนไหวผิดปกติ การป้องกันการฉ้อโกง—การให้ความรู้เรื่องหมายเลขโทรศัพท์ปลอม การแจ้งเตือนธุรกรรม และการหน่วงเวลาสำหรับการโอนมูลค่าสูง—ช่วยปกป้องกลุ่มที่โดนหลอกลวงมากที่สุด

เยาวชนและผู้ใช้ครั้งแรกได้รับประโยชน์จากเป้าหมายการออมแบบเกมมิฟาย บัญชีสำหรับนักเรียนที่ปลอดค่าธรรมเนียม และทางเลือกการลงทุนขนาดเล็กที่มีการเปิดเผยข้อมูลเข้มแข็ง การศึกษาทางการเงินที่ส่งผ่านโรงเรียนและแพลตฟอร์มโซเชียลทำให้แนวคิดอย่างดอกเบี้ยทบต้น การทำงบประมาณ และสุขภาพเครดิตเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวัน บัตรพรีเพดที่ผูกกับการควบคุมของผู้ปกครองเป็นทางขึ้นสู่การใช้จ่ายไร้เงินสดที่ปลอดภัย

การเข้าถึงต้องถูกฝังอยู่ในการออกแบบ แอปควรรองรับโปรแกรมอ่านหน้าจอ โหมดคอนทราสต์สูง และภาษาที่เรียบง่าย สาขาและตู้เอทีเอ็มที่มีทางลาด แถบนำทางสัมผัส และคิวพิเศษสำคัญต่อการเข้าถึงทางกายภาพ ช่องทางบริการลูกค้า—แชต เสียง และพบหน้า—ควรประสานกันเพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไขครั้งเดียว ไม่ต้องอธิบายซ้ำ

ความไว้วางใจต้องการการคุ้มครองที่คาดหมายได้ กำหนดเวลาชัดเจนสำหรับการแก้ไขข้อผิดพลาด กฎความรับผิดสำหรับธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต และแนวทางติดตามหนี้ที่มีความเห็นอกเห็นใจช่วยให้ผู้ใช้เปราะบางยังอยู่ในระบบ ธนาคารทำงานร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมเพื่อบล็อกโดเมนหลอกลวงที่ทราบและแลกเปลี่ยนข่าวกรองภัยคุกคาม เมื่อเกิดความตึงตัวด้านหนี้ การปรับโครงสร้างและช่วงพักชำระช่วยป้องกันไม่ให้ลูกค้าหลุดกลับไปสู่โลกเงินสด

ท้ายที่สุด การรวมกลุ่มเป็นเรื่องสังคม ความร่วมมือกับองค์กรพัฒนาเอกชน นายจ้าง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยให้มองเห็นความต้องการได้เร็วและร่วมกันออกแบบวิธีแก้—เช่น ตู้รับโอนเงินในหอพักแรงงาน หรือ “กองทุนออม” ที่ธนาคารสมทบเงินให้ โดยการมอง “เคสพิเศษ” เป็นเป้าหมายการออกแบบ ไม่ใช่ภายหลัง ธนาคารไทยจึงเปลี่ยนรางดิจิทัลให้เป็นโอกาสจริง ทำให้ทุกคน—ไม่ว่ามาจากไหน อายุเท่าใด หรือมีความสามารถอย่างไร—มีพื้นที่ที่ปลอดภัยในระบบการเงิน